ฉันสามารถตั้งค่า Keyword, ประเภท Keyword และราคาประมูลอย่างไร?
1.การเลือก Keyword ของคุณ:
- เลือกใช้คีย์เวิร์ดที่เหมาะสมกับคำโปรยโฆษณา รูปภาพ และคอลเลคชั่นที่คุณเลือกเป็นจุดปลายทางของโฆษณา
- เพิ่มคีย์เวิร์ดที่มีจำนวนค้นหาสูงใน 30 วันที่ผ่านมา(สามารถตรวจสอบได้ในหน้าเพิ่มคีย์เวิร์ดได้เลย) รวมถึงคีย์เวิร์ดดังต่อไปนี้:
- คีย์เวิร์ดที่มีรูปแบบหรือคำที่ความหมายเหมือนกันกับสินค้าในร้านค้าหรือคอลเลคชั่นของคุณ
- ถ้าคุณเลือกจุดปลายทางไปที่คอลเลคชั่นรองเท้ากีฬา คีย์เวิร์ดที่ควรจะใช้คือ "รองเท้ากีฬา", "รองเท้าวิ่ง" เป็นต้น
- ถ้าคุณขายสินค้าแปรงสีฟัน และเลือกจุดปลายทางไปที่ร้านค้าของคุณ คีย์เวิร์ดที่ควรใช้คือ "แปรงสีฟันชาโคล", "แปรงสีฟังขนนุ่ม" เป็นต้น
- Keyword ที่สามารถอธิบายกิจกรรมหรือโอกาสในการใช้งานของสินค้า เช่น
- หากร้านค้าขายอุปกรณ์และชุดเดินป่า คุณสามารถประมูลคคำว่า “เดินป่า”, “ปีนเขา”, “ปีนเขากลางแจ้ง"
- เพิ่ม Keyword อย่างน้อย 10 คำ
2.การเลือกประเภทของ Keyword:
- ตั้งค่าเป็นประเภท Broad Match ถ้าคุณต้องการให้โฆษณาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น ใช้คำทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่ผู้ซื้อจะใช้ค้นหา เช่นคำว่า "มาส์กหน้า"
- ตั้งค่าเป็นประเภท Exact Match หากคุณต้องการใช้คีย์เวิร์ดที่เฉพาะเจาะจงและเกี่ยวข้องกับสินค้าโดยตรง
- เช่น สินค้าที่เป็นจุดขายของคอลเลคชั่นนี้คือ มาส์กหน้าคอลลาเจน ให้ลองพิจารณาคำนี้เป็นคีย์เวิร์ดได้
3.ตั้งค่าราคาประมูล - ควรใช้ราคาประมูลที่แนะนำ
- ประมูลราคาให้ใกล้เคียงกับราคาขั้นต่ำ หากคุณมีงบประมาณที่จำกัด ควรตรวจสอบผลการทำโฆษณาหลังจาก 2 สัปดาห์ที่เริ่มโฆษณา และเพิ่มราคาประมูลหากต้องการจำนวนการมองเห็นเพิ่ม
ฉันสามารถตั้งค่างบประมาณและระยะเวลาการทำโฆษณาได้อย่างไร?
การตั้งค่างบประมาณและระยะเวลาสำหรับโฆษณา Keyword Ads สามารถทำได้ก่อนที่โฆษณาจะเริ่ม
- ควรเลือกการตั้งค่าเป็น “ไม่จำกัด” งบประมาณ และ “ไม่มีระยะเวลาจำกัด” หากต้องการให้โฆษณาแสดงอยู่เสมอ
- ควรเลือกการตั้งค่าเป็น “ตั้งงบประมาณ” และ “ตั้งระยะเวลา” สำหรับแต่ละโฆษณาได้ หากต้องการจำกัดงบประมาณ
- ตั้งระยะเวลาโฆษณา หากต้องการทำโฆษณาช่วงที่สินค้ามีโปรโมชั่น

- โปรดแน่ใจว่างบประมาณของคุณเพียงพอต่อจำนวนการมองเห็นและคลิกที่ต้องการ โฆษณาของคุณจะหยุดเมื่องบประมาณหมด
- เช็คว่างบประมาณของคุณเพียงพอต่อค่าโฆษณาสำหรับ 100 คลิกหรือไม่
- การปรับปรุงประสิทธิภาพโฆษณาควรมีข้อมูลในการพิจารณา (อย่างน้อย 100 คลิก)

การเลือกรูปภาพสำหรับโฆษณาของคุณ
- เลือกรูปภาพที่คมชัด มีคุณภาพ (ความละเอียดสูง ไม่มีลายน้ำ มีความสว่างที่เพียงพอ)
- หากจุดปลายทางของโฆษณาคือคอลเลคชั่น ให้เลือกใช้รูปภาพที่แสดงถึงสินค้านั้นๆมากที่สุด
- หากจุดปลายทางของโฆษณาคือร้านค้า คุณสามารถใช้โลโก้ร้าน หรือรูปภาพที่แสดงถึงร้านค้าของคุณ
การสร้างคำโปรยโฆษณา (Tagline)
โฟกัสที่ผลลัพธ์และประสิทธิภาพการใช้งานของสินค้า เช่น “เพิ่มความกระจ่างใส่ให้แก่ผิวของคุณด้วยเซรั่มระดับคุณภาพ”
- เน้นย้ำด้วยสินค้ามาใหม่ สินค้าลดราคา หรือสินค้าที่เป็นเทศกาล. “ตกแต่งบ้านของคุณให้เป็นคริสมาสต์ที่อบอุ่น”, “ลดราคารองเท้า Adidas สูงสุด 50% ตลอดทั้งเดือนสิงหาคม!”
- หลีกเลี่ยงการใช้คำโปรยที่เป็นคำถาม
- ไม่ควรใช้เครื่องหมายอัศเจรีย์หลายๆตัวซ้ำกัน อิโมจิ หรือสัญลักษณ์ต่างๆ
การเลือกจุดปลายทางของโฆษณา
คุณสามารถให้ผู้ซื้อตรงไปยังหน้าร้านค้าของคุณหรือคอลเลคชั่นร้านค้าได้
- โฆษณาจะส่งผู้ซื้อไปยังหน้าร้านค้าโฮมเพจของคุณ หากต้องการโฆษณาร้านค้าทั้งร้าน
- โฆษณาจะส่งผู้ซื้อไปยังคอลเลคชั่นสินค้าที่เลือกไว้ โฆษณาจะแสดงกับบางกลุ่มสินค้าเท่านั้น
- หากร้านของคุณมีสินค้าหลากหลายหมวดหมู่ แนะนำให้คุณสร้างโฆษณา Shop Ads 1 โฆษณาต่อ 1 หมวดหมู่สินค้า และใช้คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกันกับสินค้าในหมวดหมู่นั้นๆ
- คุณสามารถใช้คอลเลคชั่นจากร้านค้าของคุณที่มีอยู่แล้ว หรือสามารถสร้างหมวดหมู่ใหม่ได้
- สำหรับวิธีการสร้างจุดปลายทางของโฆษณา Shop Ads คลิกที่นี่
การตั้งชื่อแคมเปญสำหรับโฆษณา Shop Ads
ชื่อแคมเปญโฆษณาของคุณจะไม่ปรากฏให้ผู้ซื้อเห็น การตั้งชื่อแคมเปญโฆษณาจะช่วยให้คุณจัดการโฆษณาในแต่ละคอลเลคชั่นได้ง่ายขึ้น
- ควรตั้งชื่อแคมเปญให้อธิบายถึงการโฆษณาของคอลเลคชั่นนั้นๆ ใส่รายละเอียดของจุดปลายทางของโฆษณาให้ชัดเจน เช่น “คอลเลคชั่น Mid Year Sale 1-30 มิ.ย. 63”
ฉันสามารถตั้ง Keyword ได้ทุกคำสำหรับโฆษณา Shop Ads หรือไม่?
โปรดทราบว่าเมื่อทำโฆษณา Shop Ads คุณจะไม่สามารถตั้ง Keyword ที่ถูกจองได้ เพื่อรักษาประสงการณ์ที่ดีของผู้ใช้งาน
- Keyword ที่ถูกจอง คือคำที่ระบุเจาะจง ในกรณีที่ผู้ซื้อต้องการค้นหาร้านค้านั้นๆโดยเฉพาะ
- ตัวอย่าง ผู้ซื้อต้องการค้นหา “แบรนด์ AAA" ที่เหมือนกับร้าน Brand AAA’s Official Store